Aachen
เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดใกล้ชายแดน Belgian และ Dutch เมืองนี้ถือว่ามีความสำคัญในอดีต กษัตริย์ Charl the great แห่งโรมันศักดิ์สิทธิ์ต้องการให้เมืองนี้เป็นเมืองหลวงแห่งใหญ่ของ Holy Roman และผู้ที่จะเป็นกษัตริย์แห่งโรมันก็ต้องมาสถาปนาการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ที่นี่ ฃึ่งมากถึง 32 พระองค์ และที่นี่ยังเป็นที่อยู่กษัตริย์ในช่วงยุคกลางอีกด้วย ซึ่งเมืองนี้สามารถที่จะท่องเที่ยวได้ภายในว้น เมื่อเราถึงสถานีรถไฟใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็จะเดินมาถึงใจกลางเมืองแล้ว
เมื่อเดินมาจะเห็น Elisenbrunnen ซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ใหม่ของเมืองในฐานะเป็นชุมชนแห่งสปาโดยใช้ตึกนี้เป็นสัญลักษณ์ สร้างขึ้นในปี 1827 และอนุสาวรีย์ก็ได้ชื่อมาจาก Elisabeth Ludovika แห่งบาวาเรีย ภรรยาในอนาคตของกษัตริย์ของ Frederick William IV แห่งปรัสเซีย สร้างขึ้นในแบบ Neoclassic น้ำที่ไหลจากน้ำพุ 2 ข้างนั้นเป็นน้ำที่มีกลิ่นของ Hydrogen sulphide และมีอุณหภูมิสูงถึง 52 องศา และตึกนี้ในปัจจุบันก็ใช้เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่สำคัญอีกด้วย
เมื่อเดินเข้าไปทางสวนสาธารณะก็จะเห็นตึกที่เหมือนใยแมงมุมด้านในมีการเก็บรักษาซากโบราณสถานของฐานอาคารในสมัยโรมันเก่าอยู่ด้วย ไม่ไกลนักก็จะเห็นน้ำพุ Kreislauf des Geldes
สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไฮไลต์ของที่นี่คือ Aachen Cathedral หรือ Dom รู้จ้กในฐานะเป็นมหาวิหารของกษัตริย์แห่งโรมัน Charlemange ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโบสถ์นี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่ได้รับการคุ้มครองจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นใน ค.ศ.796 ตัวโบสถ์นั้นสร้างเป็นแบบแปดเหลี่ยม ใช้เพื่อทำหน้าที่เป็นมหาวิหารสำหรับตระกูล Charlemange ซึ่งสถาปัตยกรรมภายในเป็นแบบโกธิค สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1414 แต่ถ่ายรูปยากมากเพราะตัวอาคารทรงสูง
และไม่ไกลกันนักก็จะเป็นสถานที่จัดแสดงสมบัติของโบสถ์แห่งนี้ (Treasury of Aachen Cathedral) มหาวิหารนี้ถือว่าเป็นมหาวิหารที่ร่ำรวยและมีความสำคัญที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในได้มีการจัดแสดงสมบัติต่างๆ ของโบสถ์และหัวหน้าคณะของโบสถ์ในอดีตรวมถึงของใช้ที่พระองค์ได้ใช้ เช่น เสื้อคลุม ถุงมือ หมวก กุญแจ ภาพฝาพนัง เป็นต้น
ที่นี่มีร้านขนมที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีประวัติยาวนานเกิน 150 ปีแล้ว ก็เป็นที่นิยมของคนที่นี่เช่นกัน ดังจะเห็นได้จากสาขาที่มีทั่วเมือง คือ ร้าน